บทที่ 4 ทำไมคุณควรใช้ WordPress

บทที่ 4 ทำไมคุณควรใช้ WordPress

ประโยชน์ต่าง ๆ ของ WordPress ซึ่งจะบอกได้ว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่ ก่อนที่ตัดสินใจใช้งาน

 

มีความเรียบง่าย

WordPress ช่วยให้คุณเผยแพร่และสร้างเนื้อหาลงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะเป็นมือใหม่ก็สามารถใช้ WordPress ได้อย่างง่ายดาย

 

ใช้งานได้ฟรี

ซอฟต์แวร์ของ WordPress จะอยู่ในเว็บ WordPress.org ซึ่งสามรถเข้าไปดาวน์โหลดและใช้งานได้ฟรี แต่อย่างไรก็ตามต้องจ่ายเงินค่าเว็บโฮสติ้งและค่าจดชื่อโดเมน

 

ความยืดหยุ่น

WordPress ช่วยให้สร้างเว็บไซต์ได้เกือบทุกประเภท เช่น บล็อกส่วนตัว ร้านค้าออนไลน์ เว็บสมาชิก ฟอรัม และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

ใช้งานง่าย

หากผู้ใช้งานสามารถใช้โปรแกรม Microsoft Word ได้ ผู้ใช้ก็สามารถใช้ WordPress เพื่อสร้างและจัดการเว็บไซต์ได้ ง่าย ๆ แบบนั้นเลย

 

ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส

WordPress เป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ได้รับอนุญาตภายใต้ GNU General Public License (GPL) ซึ่งหมายความว่าไม่ได้เป็นของ บริษัท หรือหน่วยใด ๆ

นักพัฒนาและผู้ใช้หลายร้อยคนร่วมมือกันและมีส่วนร่วมในการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้น (จุดมุ่งหมายของโอเพ่นซอร์ส คือ การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ความรับผิดชอบ และการใช้งานฟรีสำหรับทุกคน)

 

ไม่ต้องมีความรู้เรื่องโค้ด

ไม่จำเป็นต้องรู้วิธีเขียนโค้ดเพื่อสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress แม้ว่า WordPress จะสร้างโดยการใช้ภาษาจากการเขียนโค้ดที่หลากหลาย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาใด ๆ ในการใช้ WordPress

 

เพิ่มความสามารถได้โดย WordPress Plugin

สามารถเพิ่มฟังก์ชั่นการทำงานต่าง ๆ เพิ่มเติมให้เว็บไซต์ของเราได้โดยการติดตั้งสิ่งที่เรียกว่า “ปลั๊กอิน” (WordPress Plugin)

ปลั๊กอิน WordPress เป็นซอฟต์แวร์ขนาดเล็กที่คุณสามารถอัปโหลดไปยังเว็บไซต์ของคุณเพื่อเพิ่มคุณสมบัติอื่นๆตามต้องการ (เช่น ปลั๊กอินสร้างแบบฟอร์ม ปลั๊กอินเพิ่มปุ่มแชร์ ปลั๊กอินระบบสมาชิก ปลั๊กอิน SEO) ซึ่งมีปลั๊กอิน WordPress ให้ใช้งานได้ฟรีหลายหมื่นรายการ รวมถึงปลั๊กอินพรีเมียมที่ต้องเสียเงินเพื่อใช้งาน

 

ปรับแต่งรูปแบบหน้าเว็บได้ด้วยธีม

ธีม WordPress จะช่วยให้สามารถออกแบบและการจัดวางตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บนเว็บไซต์ได้โดยง่ายดายตามชอบ

 

ความปลอดภัยของเว็บไซต์

แม้ว่าจะไม่มีแพลตฟอร์มเว็บไซต์ไหรที่จะปลอดภัย 100% แต่การรักษาความปลอดภัยของ WordPress ยังคงได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยทีมรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดของผู้พัฒนาและผู้ใช้ ซึ่งปัญหาด้านความปลอดภัยของ WordPress มักเกิดจากข้อผิดพลาดของผู้ใช้ไม่ใช่ตัวซอฟต์แวร์

 

ค้นหาวิธีใช้ WordPress ได้ง่าย

เนื่องจาก WordPress ได้รับความนิยมอย่างมากจึงง่ายต่อการค้นหาความช่วยเหลือหากประสบปัญหาใด ๆ ตัวอย่างที่สามารถไปหาความรู้ได้ :

  • เว็บบล็อก
  • youtube
  • ฟอรัม
  • กลุ่ม Facebook

 

ชุมชนผู้ใช้ที่เยอะ

เมื่อสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress จะสามารถมีส่วนร่วมในชุมชน WordPress ผ่าน WordPress Meetup , WordCamps , กลุ่มใน Facebook (กลุ่มของคนไทยมีเยอะมาก) ซึ่งสามารถเข้าร่วมและพูดคุยถามตอบปัญหา ปรึกษา จ้างงาน และอื่น ๆ อีกมากมายจากผู้ที่ใช้งาน WordPress 

กลุ่มที่ในไทยที่แนะนำ → WordPress Bangkok

บทที่ 9 WordPress theme คืออะไร?

บทที่ 9 WordPress theme คืออะไร?

WordPress theme (ธีม) คือ สิ่งที่ใช้เพื่อกำหนดลักษณะและการแสดงผลของเว็บไซต์ว่าอยากให้มีหน้าตาเป็นแบบไหน มีทั้งธีมฟรีและเสียเงินให้เลือกมากมายตามที่คุณชอบ เช่น …

  • การออกแบบโดยรวม (รูปลักษณ์และสไตล์) ของเว็บไซต์
  • กำหนดรูปแบบตัวอักษรทั้งไซต์ (Font)
  • กำหนดโทนสีให้เว็บไซต์
  • กำหนดรูปแบบสำหรับหน้าบทความในบล็อก และหน้ารวมบทควาทของบล็อก
  • กำหนดเค้าโครงหน้าเว็บ (หรือเทมเพลต)
  • ปรับเปลี่ยนตำแหน่งวิดเจ็ต
  • และอื่น ๆ เพิ่มเติมที่แตกต่างในแต่ละธีม

ซึ่งแต่ละธีมจะมาพร้อมกับการออกแบบเค้าโครงของหน้าเว็บและคุณสมบัติอื่นๆเพิ่มเติ่มที่แตกต่างกัน คุณก็ต้องเลือกธีมที่เหมาะกับรสนิยมและความต้องการสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

และยังมีรูปแบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับเว็บไซต์บางประเภทโดยเฉพาะ เช่น WordPress Photography Themes ที่ออกแบบมาสำหรับช่างภาพและเว็บไซต์เกี่ยวกับการถ่ายภาพ

บทที่ 3 จุดเริ่มต้นของ WordPress

บทที่ 3 จุดเริ่มต้นของ WordPress

WordPress เริ่มต้นในปี 2003 โดย Mike Little และ Matt Mullenweg พยายามสร้างแพลตฟอร์มบล็อกที่ดีขึ้น โดยใช้โค้ดพื้นฐานจาก B2 cafelog

ผลลัพธ์คือได้เป็น WordPress ที่เป็นเครื่องมือสำหรับการเขียนบล็อกได้ง่ายและดีกว่าเดิม จึงกลายเป็นระบบการจัดการเนื้อหา (CMS) ที่นิยมไปทั่วโลกซึ่งสามารถจัดการเว็บไซต์ได้หลากหลายมากกว่าเดิมในปัจจุบัน

บทที่ 8 ปลั๊กอิน WordPress คืออะไร

บทที่ 8 ปลั๊กอิน WordPress คืออะไร

ปลั๊กอิน WordPress คือซอฟแวร์ที่คุณสามารถอัพโหลดลงบนเว็บไซต์เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ ที่คุณอยากได้ให้กับเว็บไซต์ WordPress ของคุณ

ตัวอย่าง เช่น หากคุณต้องการเพิ่มแบบฟอร์มลงในเว็บไซต์ คุณก็เพียงดาวน์โหลดติดตั้งปลั๊กอิน WordPress ที่ชื่อว่า Contact form 7 เพื่อทำให้เว็บของคุณสร้างแบบฟอร์มได้

ซึ่งคุณไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ดอะไรเลย เพียงหาปลั๊กอินที่มีฟังก์ชั่นตามที่คุณอยากได้แล้วติดตั้งลงเว็บได้ง่าย ๆ

บทที่ 2 WordPress.com กับ WordPress.org ต่างกันอย่างไร

บทที่ 2 WordPress.com กับ WordPress.org ต่างกันอย่างไร

หากเพิ่งเริ่มต้นใช้งาน WordPress มีสิ่งสำคัญบางประการที่ควรทราบ ก่อนอื่นต้องทราบความแตกต่างระหว่าง WordPress.com กับ WordPress.org สรุปสั้น ๆ คือ

 

  • WordPress.com กับ WordPress.org มีผู้ก่อตั้งเป็นคนเดียวกัน
  • WordPress.com – สร้างมาเพื่อแสวงหาผลกำไร
  • WordPress.org – สร้างมาเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้ฟรี

 

WordPress.com 

เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์สำเร็จรูปรายหนึ่ง ผู้ที่อยากมีเว็บไซต์สามารถสมัครสมาชิกแล้วเริ่มเขียนเนื้อหาได้ฟรีทันที แต่ก็จะมีข้อจำกัดต่าง ๆ มากมายเพราะเราไม่ใช่เจ้าของเว็บโดยแท้จริง

  • ใช้ได้ฟรี (มีแพ็คเกจเสียเงิน)
  • ไม่ต้องจดโดเมนและเช่าโฮสติ้ง 
  • ฟังก์ชั่นการใช้งานน้อยถึงแม้จะเสียเงินซื้อฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆเพิ่ม
  • โดเมนจะอยู่ในรูปแบบ : ชื่อโดเมนที่ต้องการ.wordpress.com
  • คุณไม่ได้เป็นเจ้าของเว็บ wordpress.com มีสิทธิ์ทำอะไรกับเว็บของคุณก็ได้

 

WordPress.org

เป็นที่ที่สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ WordPress เพื่อติดตั้งลงบนเว็บโฮสติ้งเองได้ ทำให้สามารถปรับแต่งทุกอย่างได้ตามต้องการเพราะเป็นของ 100%

  • ใช้ได้ฟรี 
  • ต้องเสียเงินจดโดเมนและเช่าโฮสติ้งเอง
  • ฟังก์ชั่นการใช้งานเยอะมหาศาลมีทั้งเสียเงินและฟรี
  • โดเมนจะอยู่ในรูปแบบ : ชื่อโดเมนที่ต้องการ.com ชื่อโดเมนที่ต้องการ.org
  • ชื่อโดเมนที่ต้องการ.co.th และอื่น ๆ ตามต้องการ
  • เป็นเจ้าของเว็บ 100% สามารถทำอะไรกับเว็บของตัวเองก็ได้ 

 

WordPress.org กับ WordPress.com ใช้อันไหนดี

WordPress.org  ดีกว่าเยอะมากเพราะเป็นเจ้าของเว็บ 100% ที่มีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ และ WordPress.org มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เรียกได้ว่าเยอะมหาศาล เทียบกับ WordPress.com แล้วเหมือนฟ้ากับดินก็ว่าได้

บทที่ 7 สอนวิธีใช้ WordPress

บทที่ 7 สอนวิธีใช้ WordPress

วิธีการใช้งาน WordPress นั้นจะมีขั้นตอนสำคัญดังนี้

  1. จดโดเมน
  2. เช่าโฮสติ้ง
  3. ติดตั้ง WordPress
  4. เริ่มต้นสร้างหน้าเว็บไซต์

ซึ่งนี่คือคลิปคู่มือสอนวิธีการสร้างเว็บไซต์ด้วย WordPress แบบง่ายสุด ๆ กดดูได้เลย

บทที่ 6 ใครใช้ WordPress?

บทที่ 6 ใครใช้ WordPress?

WordPress มีผู้ใช้งานมากกว่า 60 ล้านเว็บไซต์ หรือคิดเป็น 36% ของเว็บไซต์ทั้งหมดบนโลกอินเทอร์เน็ต และมากกว่า 60% ของเว็บไซต์ที่ใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS)

ซึ่งมีบริษัท องกรณ์ และคนที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมายที่ใช้ WordPress ในการสร้างเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น …

  • Time
  • NBC
  • Disney
  • Airbnb
  • Spotify
  • Microsoft
  • Whitehouse

บทที่ 1 WordPress ใช้ทำเว็บไซต์อะไรได้บ้าง

บทที่ 1 WordPress ใช้ทำเว็บไซต์อะไรได้บ้าง

หากจะพูดว่า WordPress นั้นสามารถสร้างเว็บไซต์อะไรได้บ้าง ขอตอบเลยว่าสร้างได้เกือบทุกประเภท เพราะ WordPress มีเครื่องมือที่ชื่อว่า Plugin ที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้สร้างเว็บแบบไหนก็ได้ โดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโปรแกรมอะไรเลย ซึ่งนี่คือตัวอย่างประเภทเว็บไซต์ที่สามารถสร้างได้ด้วย WordPress

 

เว็บบล็อก (Blog)

บล็อก (Blog) เป็นเว็บไซต์ประเภทที่ใช้ในการเขียนแบ่งปัน ความคิด ความรู้ ภาพถ่าย บทวิจารณ์ บทแนะนำ สูตรอาหารและอื่น ๆ อีกมากมาย โดยผู้ที่ทำอาชีพเขียนบล็อกจะเรียกกันว่า “บล็อกเกอร์ (Blogger)”

 

เว็บไซต์ร้านค้าอีคอมเมิร์ซ (เว็บขายของออนไลน์)

เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซเป็บเว็บที่ช่วยให้ขายสินค้าหรือบริการทางออนไลน์ และเก็บเงินผ่านระบบการชำระเงินออนไลน์ โดยสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอินอีคอมเมิร์ซลงบน WordPress เพื่อให้สามารถมีร้านค้าออนไลน์บนเว็บไซต์ของคุณได้ (ปลั๊กอินที่นิยมคือ Woocommerce ใช้งานได้ฟรี)

 

เว็บไซต์ธุรกิจ

ธุรกิจจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการมีตัวตนอยู่บนโลกออนไลน์ในรูปแบบของเว็บไซต์ หากต้องการเว็บไซต์เพื่อให้ลูกค้าได้รู้จักเกี่ยวกับบริษัทและสิ่งอื่น ๆ ที่อยากนำเสนอ WordPress เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเพราะลูกค้าจะสามารถ ติดต่อผู้ขาย ขอใบเสนอราคา นัดหมาย และอื่น ๆ อีกมากมาย

 

เว็บไซต์สมาชิก (Membership website)

เว็ปไซต์สมาชิก คือ เว็บที่จะช่วยเรียกเก็บเงินจากสมาชิก เพื่อแลกกับการเข้าถึงเนื้อหาสุดพิเศษบนเว็บไซต์ ซึ่งในปัจจุบันมีเว็บไซต์ประเภทนี้มากมาย เช่น Netflix ที่เรียกเก็บเงินกับสมาชิกเป็นรายเดือนเพื่อเข้าถึงซีรี่ย์และภาพยนตร์ ซึ่ง WordPress สามารถทำเว็บไซต์ประเภทนี้ได้โดยไม่ต้องมีความรู้ในการเขียนโค้ดเลยเพราะจะมี Plugin ให้เลือกใช้งานได้มากมาย

 

เว็บไซต์ Portfolio

เป็นเว็บที่ใช้เพื่อแสดงผลงานศิลปะ การออกแบบ และอื่น ๆ

 

เว็บไซต์ฟอรัม (Forum)

เว็บไซต์ฟอรัม (forum) คือ เว็บที่ใช้ในการถามคำถาม พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เชื่อหรือไม่ว่าเว็บไซต์ฟอรัมจำนวนมากทำงานบน WordPress

 

เว็บไซต์จัดงาน Event (ขายตั๋ว)

WordPress จะช่วยสร้างเว็บเพื่อแบ่งปันรายละเอียดกิจกรรม และขายตั๋ว ได้อย่างง่ายดาย

 

เว็บไซต์ e-learning (คอร์สเรียนออนไลน์)

สามารถสร้างเว็บไซต์คอร์สเรียนออนไลน์ได้ง่าย ๆ จาก WordPress โดยการใช้ปลั๊กอินชนิดพิเศษที่เรียกว่า ปลั๊กอิน WordPress LMS ซึ่งนักเรียนสามารถเรียนหลักสูตรออนไลน์ ติดตามความคืบหน้า ดาวน์โหลดแหล่งข้อมูลของคอร์ส ถามตอบ และอื่น ๆ อีกมากมายจากเว็บไซต์ e-learning 

นอกจากที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ WordPress ยังสร้างเว็บไซต์ประเภทอื่นได้อีกเยอะแยะครับนี่แค่ยกตัวอย่างบางส่วนมาเท่านั้น

บทที่ 5 คุณสมบัติของ WordPress

บทที่ 5 คุณสมบัติของ WordPress

SEO

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (หรือที่เรียกว่าการทำ SEO) SEO จะช่วยให้ผู้คนสามารถค้นพบเนื้อหาเว็บไซต์ของคุณผ่านทางเครื่องมือค้นหาทั่วไปเช่น Google หรือ Bing

ซึ่ง WordPress นั้นมีเครื่องมือต่าง ๆ มากมายที่ใช้ในการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณให้ดีที่สุดต่อการทำ SEO

ความเร็ว

WordPress เป็น lean website framework ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องในการลบ “code bloat” ที่ทำให้ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ช้าลง

ใช้งานได้ดีบนมือถือ (Mobile friendly)

ธีม WordPress ส่วนใหญ่เป็นธีมที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะสมกับมือถือได้ หรือที่เรียกว่า Mobile friendly นั่นเอง

อัพโหลดไฟล์ได้หลากหลาย (Media file library)

WordPress มีไลบรารีสื่อในตัวที่คุณสามารถอัปโหลดและฝังไฟล์สื่อ เช่น รูปภาพ วิดีโอ ไฟล์ pdf ลงในเว็บไซต์ของคุณ ได้ และคุณยังสามารถแก้ไขปรับแต่งรูปภาพของคุณเบื้องต้นได้ใน WordPress

มี Interface ที่ใช้งานง่าย

WordPress ใช้งานง่ายมากโดยไม่มีการตั้งค่าที่ซับซ้อน คุณจะสามารถทำความเข้าใจในการใช้งานเครื่องมือต่าง ๆ โดยใช้เวลาไม่นาน

กำหนดเมนูได้เอง

WordPress ช่วยให้สร้างเมนู พร้อมลิงก์ไปยังหน้าเว็บต่างๆที่คุณต้องการได้อย่างง่ายดาย

มีบล็อกในตัว

WordPress มีเครื่องมือที่ชื่อว่า post ซึ่งคุณจะสามารถใช้สร้างบล็อกให้เว็บของคุณได้ทันทีโดยไม่ต้องลงเครื่องมืออะไรเพิ่ม

สร้างหน้าเว็บด้วยการลากวาง

เราสามารถสร้างและออกแบบหน้าเว็บต่าง ๆ ของเราได้ตามต้องการโดยใช้วิธีการลากวาง ไม่ต้องเขียดโค้ดใด ๆ แม้แต่ตัวเดียว (ถ้าเขียนโค้ดเป็นก็ทำได้)